คดีพลิก แม่ลูก3 ขอของคืนหลังทีมงาน พิมรี่พาย ทำความสะอาด อ้าง ขนสินค้า-ของใช้ไป

คดีพลิก แม่ลูก3 ขอของคืนหลังทีมงาน พิมรี่พาย ทำความสะอาด อ้าง ขนสินค้า-ของใช้ไป

1 จากกรณีแม่ค้าขายออนไลน์ชื่อดังได้ทำการช่วยเหลือคุณแม่ลูก 3 ชื่อว่า ส้ม ที่เป็นผู้ป่วยอาการขาไม่มีแรง โดยคลิปนี้เผยแพร่ไป วันที่ 26 พ.ย. 2021 หมอวินิจฉัยว่าเป็น โรคกล้ามเนื้อสลาย พิมพรี่พายก็ได้เดินทางไปให้กำลังใจ ช่วยเหลือให้ทีมงานเข้ามาเก็บห้อง จากนั้นพาคุณส้มไปหาหมอกายภาพบำบัดและย้ำว่าคุณส้มต้องเดินให้ได้ซึ่งสาวพิมรี่พายก็ได้ออกค่าใช้จ่ายพร้อมทั้งซื้อของใช้ให้ใหม่ จากนั้นก็ให้เงินไว้ทำทุน

พิมรี่พายเข้าช่วยเหลือ

2 งานนี้กลายเป็นว่า คุณส้มได้ร้องกับเพจดังว่า ฝากถึงทีมงานพิมรี่พายที่ติดต่อมาช่วยเหลือ เข้ามาถ่ายทำคลิป แต่ว่าทีมงานทำความสะอาด ได้ขนของขายของใช้ตนไป เลยอยากจะขอคืน แต่ทีมงานพิมรี่พายบอกให้จดไว้เเล้วคิดเงินมาว่าทั้งหมดมีอะไรบ้างเดียวใช้ให้ เเล้วก็เงียบไปจนห้องที่เปิดให้เช่าหมดสัญญา 3 เดือน เจ้าของทวงห้องคืน ตนก็แจ้งไปที่ทีมงาน ซึ่งทีมงานบอกว่า ขอเคลียร์เรื่องของก่อน แต่ทีมงานบอกว่า มันนานแล้วจบแล้ว แต่จะคุยให้อีกที และที่บอกว่าตนเดินได้แล้ว ตามคลิปที่พิมรี่พายลงเพจ แต่เรื่องจริงคือตนยังเดินไม่ได้หลังจากที่เรื่องดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้ามาวิพากวิจาร์ณต่างๆ นานา (ทางเพจได้ลบออกไปแล้ว)

ล่าสุดวันที่ 15 พฤษภาคม พิมรี่พายได้ชี้แจงกับเหตุการ์ณดังกล่าวที่เกิดขึ้น สาวพิมรี่พายยืนยันว่าตนมีเจตนาดีและคุณส้มยินดีให้พิมรี่พายเข้าช่วยเหลือ ซึ่งคุณส้มไม่มีบัตรคนพิการเลยทำให้ไม่ได้รับเงินสำหรับคนพิการ สาเหตุที่ไม่ได้บัตรคนพิการ เนื่องจากเคสนี้มีโอกาสหาย และแจ้งกับคุณพิมพรี่พายว่า ต้องทำการรักษา 16 ครั้ง จะดีขึ้นตามลำดับ

3 แต่ถ้าหากสภาพแวดล้อมห้องยังเป็นเหมือนเดิมก็มีโอกาหายช้า พิมพรี่พายจึงจ้างบริษัททำความสะอาดโดยมีคุณแม่ของคุณส้มเป็นผู้กำกับ ว่าของอันไหนเก็บไว้ อันไหนทิ้งได้ ซึ่งของที่เก็บไว้นั้นมีเยอะมาก พิมรี่พายเลยเช่าห้องให้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่พิมรี่พายออกให้ทั้งหมดอาทิค่ารักษา ค่าเฟอนิเจอ รวมแล้ว 1 แสน 2 หมื่น บาท

ห้องก่อนทำความสะอาด

ห้องหลังทำความสะอาด

ล่าสุดวันที่ 15 พฤษภาคม พิมรี่พายได้ชี้แจงกับเหตุการ์ณดังกล่าวที่เกิดขึ้น สาวพิมรี่พายยืนยันว่าตนมีเจตนาดีและคุณส้มยินดีให้พิมรี่พายเข้าช่วยเหลือ ซึ่งคุณส้มไม่มีบัตรคนพิการเลยทำให้ไม่ได้รับเงินสำหรับคนพิการ สาเหตุที่ไม่ได้บัตรคนพิการ เนื่องจากเคสนี้มีโอกาสหาย และแจ้งกับคุณพิมพรี่พายว่า ต้องทำการรักษา 16 ครั้ง จะดีขึ้นตามลำดับ

แต่ถ้าหากสภาพแวดล้อมห้องยังเป็นเหมือนเดิมก็มีโอกาหายช้า พิมพรี่พายจึงจ้างบริษัททำความสะอาดโดยมีคุณแม่ของคุณส้มเป็นผู้กำกับ ว่าของอันไหนเก็บไว้ อันไหนทิ้งได้ ซึ่งของที่เก็บไว้นั้นมีเยอะมาก พิมรี่พายเลยเช่าห้องให้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่พิมรี่พายออกให้ทั้งหมดอาทิค่ารักษา ค่าเฟอนิเจอ รวมแล้ว 1 แสน 2 หมื่น บาท

แต่ถ้าหากสภาพแวดล้อมห้องยังเป็นเหมือนเดิมก็มีโอกาหายช้า พิมพรี่พายจึงจ้างบริษัททำความสะอาดโดยมีคุณแม่ของคุณส้มเป็นผู้กำกับ ว่าของอันไหนเก็บไว้ อันไหนทิ้งได้ ซึ่งของที่เก็บไว้นั้นมีเยอะมาก พิมรี่พายเลยเช่าห้องให้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่พิมรี่พายออกให้ทั้งหมดอาทิค่ารักษา ค่าเฟอนิเจอ รวมแล้ว 1 แสน 2 หมื่น บาท

ลายเซ็นต์ลงชื่อ

2 งานนี้กลายเป็นว่า คุณส้มได้ร้องกับเพจดังว่า ฝากถึงทีมงานพิมรี่พายที่ติดต่อมาช่วยเหลือ เข้ามาถ่ายทำคลิป แต่ว่าทีมงานทำความสะอาด ได้ขนของขายของใช้ตนไป เลยอยากจะขอคืน แต่ทีมงานพิมรี่พายบอกให้จดไว้เเล้วคิดเงินมาว่าทั้งหมดมีอะไรบ้างเดียวใช้ให้ เเล้วก็เงียบไปจนห้องที่เปิดให้เช่าหมดสัญญา 3 เดือน เจ้าของทวงห้องคืน ตนก็แจ้งไปที่ทีมงาน ซึ่งทีมงานบอกว่า ขอเคลียร์เรื่องของก่อน แต่ทีมงานบอกว่า มันนานแล้วจบแล้ว แต่จะคุยให้อีกที และที่บอกว่าตนเดินได้แล้ว ตามคลิปที่พิมรี่พายลงเพจ แต่เรื่องจริงคือตนยังเดินไม่ได้หลังจากที่เรื่องดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้ามาวิพากวิจาร์ณต่างๆ นานา (ทางเพจได้ลบออกไปแล้ว)

คลิปพิมรี่พายชี้แจง

นอกจากนี้คุณหมอยังส่งตารางการรักษามาให้ทีมงานมาเสมอ มีอยู่ 4 ครั้งที่ปฏิเสธการรักษา เนื่องจากไม่สบาย(เหตุผลตามรูป)จากนั้นพิมพ์รี่พายก็ขอให้ส่งคลิปตอนที่คุณส้มสามารถลุกได้เอง แต่กลายว่าเป็นได้รับแจ้งจากหมอว่าคุณส้มไม่อยากรักษา ซึ่งคุณหมอก็แจ้งกับพิมรี่พายว่าไม่อยากไปแล้วเนื่องจากคุณส้มไม่ให้ความร่วมมือ

เหตุผลที่ปฏิเสธการรักษา

นอกจากนี้พิมพ์รี่พายยังแจ้งว่าคุณส้มได้ส่งรายการใบกระดาษมาตั้งแต่วันที่ 26 พฤษจิกายนปี 2564 เป็นค่าใช้จ่าย ทั้งหมดราวๆ 3 หมื่น 2 ในรายการทั้งหมดนี้คือของที่ทีมงานเอาไป ซึ่งพิมพรี่พายก็ยินยอมโอนให้ตามคำขอ และได้โชว์โพสต์ของคุณส้ม อาทิ อยากได้ความช่วยเหลืออยากเดินได้ อยากได้ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น

นอกจากนี้คุณส้มยังพูดกับทีมงานพิมพ์รี่พาย ว่า ตั้งแต่พิมพ์รี่พายเข้าไปช่วยเหลือยอดเงินบริจาคที่เขาได้น้อยลง และอ้างว่าพิมรี่พายไปเปิดบัญชีรับบริจาคและไม่ยอมเอาเงินบริจาคไปให้กับคุณส้ม พิมรี่พายยืนยันว่า ไม่เคยเปิดรับบริจาคเลย

ถ้าข้อผิดพลาดประการใดอภัย มา ณ ที่นี้

หวังว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีและเข้าใจกันทุกฝ่ายนะคะ