สเตฟาน ฐสิษฐ์ หลังอำลาวงการ ผันตัวเองจากดาราสู่เจ้าของธุรกิจ

สเตฟาน ฐสิษฐ์ หลังอำลาวงการ ผันตัวเองจากดาราสู่เจ้าของธุรกิจ

เป็นอีกหนึ่งพระเอกหนุ่มที่เคยโด่งดังอย่างมากในอดีต สำหรับ “สเตฟาน ฐสิษฐ์” พระเอกหนุ่มจากวิกหมอชิต ซึ่งเคยฝากผลงานละครเอาไว้มากมาย ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังให้กับวงการบันเทิง และหายหน้าไปจากงานละครตั้งแต่ปี 2557

จนหลายคนสงสัยว่า หนุ่มสเตฟาน ทำไมอยู่ ๆ ถึงไม่รับงานละครแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดอกว่า ที่ออกจากวงการหลังจากเล่นละครมาเป็นเวลา 10 ปีเต็ม เพราะเบื่อชีวิตในวงการบันเทิงที่ต้องถูกสังคมตัดสิน รวมทั้งการทำงานถ่ายละคร ไม่มีวันหยุด วันลา ทำให้ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ซึ่งผมเป็นคนรักอิสระและมีโลกส่วนตัวที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมโกรธคนที่กองถ่าย เพราะ วันแม่ ผมต้องถ่ายละครทั้งวันถึง 8 โมงเช้า วันแม่ ผมคิดว่าผมจะได้กลับบ้านแล้วนะ แต่บอกให้ผมกลับไปอาบน้ำ แล้วรีบกลับมาถ่ายต่อ 11 โมง ผมจำได้เลยว่า ผมโกรธมาก ผมถามคนที่อยู่ที่กองว่า คุณไม่มีแม่เหรอ

วันนี้วันแม่นะ ยังจะให้ทำงานอีก ผมก้มหน้าก้มตาแสดงละคร 10 ปี ตื่นมาอีกทีก็อายุ 30 แล้ว เงินค่าจ้างที่ได้มา นอกจากเอาไปเที่ยว ไปซื้อของแล้ว ผมก็จะเอามาดูแลแม่ ดูแลพ่อผม ส่งน้องเรียนมหาวิทยาลัย

ส่วนที่ผมเล่นละคร เพราะแม่ผมไม่สบาย ผมรักแม่มาก แม่ผมจะเสียสละให้ผมทุกอย่าง ไม่ว่าผมจะยังไง 10 ปี ผมไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่เลย

ประกอบกับผมเหนื่อยกับการเป็นทาสสังคม และผมรู้ว่าแม่ผมอยู่ได้อีกไม่นานแน่ ผมก็เลยออกจากวงการมาอยู่กับแม่ พอแม่ผมจากไป ผมย้ายบ้านมาอยู่กับพ่อและน้องสาวคนเล็ก

ตอนนี้ผมมีพ่อ ผมอยากใช้เวลาอยู่กับพ่อให้นานที่สุด ผมไม่ใช่ลูกที่ดี เคยขึ้นเสียงกับพ่อแม่บ้าง รู้สึกผิดทุกวัน เพราะวันใดท่านจากไปแล้ว เราจะเหลือแค่ความทรงจำดี ๆ นั่นแหละเหตุผลที่ผมเลิกเล่นละคร

ถามว่าไม่เสียดายเงินเหรอ ผมเล่นละครเรื่องหนึ่งผมได้เป็นล้านแล้ว ผมโชว์ตัวชั่วโมงหนึ่ง ก็ได้เป็นแสนแล้ว เมื่อก่อนผมใช้เงินเก่ง ผมดื่มทุกวัน วันละ 5 หมื่น ผมอยากได้รถผมซื้อเงินสดเลย

ซื้อของทุกวัน แต่ก็ไม่มีความสุขเลย วันนี้ผมอาจไม่สบาย ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้หาเงินง่าย เหมือนตอนเป็นดารา แต่ผมตื่นมาแล้ว ผมมีความสุขมากกว่าตอนเป็นดารามาก

ปัจจุบัน หนุ่มสเตฟาน หันไปทำธุรกิจโรงแรม ขึ้นแท่นเป็นเจ้าสัว ด้วยวัยเพียง 39 ปีเท่านั้น

เรียกว่าหายหน้าหายตาไปนาน จนทำให้หลาย ๆ คนคิดถึงหนุ่มคนนี้และหวังว่าเราจะได้เห็นผลงานของเค้าอีกครั้งนะคะ อย่างไรก็ขอเอาใจช่วยให้ธุรกิจที่ หนุ่มสเตฟาน ทำประสบความสำเร็จด้วยนะคะ