กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจที่สุดในนาทีนี้ สำหรับ อดีต “พระกาโตะ” กับ ใบตอง โดยอดีตพระกาโตะ นั้น รู้จักในนามพระนักเทศน์ ในโซเชี่ยลตาม TikTok สำหรับอดีตพระกาโตะนั้น เริ่มจากที่ ตั้งใจจะบวช 1 พรรษา ซึ่งได้สัญญากับแม่ไว้ว่าจะบวชให้ และท่านก็เสียชีวิตลงเพราะโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีก่อน พอโยมแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเป็นช่วงที่อาตมาเรียนจบ ม.6 พอดี และได้โควตาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ก็ตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพราะอยากดูแลโยมแม่ที่ป่วย ด้วยความที่อาตมาเป็นลูกคนเดียว และโยมพ่อรับราชการเป็นตำรวจ จึงอยากทุ่มเทเวลาดูแลโยมแม่ให้เต็มที่ พระพงศกร กล่าวว่า หลังจากเรียนจบ อาตมาก็ทุ่มเทเวลาดูแลโยมแม่ที่ป่วย แต่ก็มีรับงานแสดงหนังตะลุงด้วย ซึ่งอาตมาชื่นชอบมาตั้งแต่ 7 ขวบ จากนั้นก็เรียนรู้และพัฒนาตนเองจนมาตั้งคณะชื่อ หนังแรมโบ้ ศ.สุวรรณศิลป์ ตอนอายุ 13 ปี ที่สำคัญก็มีโอกาสได้เรียนรู้จากครูเอกชัย ศรีวิชัย ด้วย
“ช่วงแรกๆ ก็รับเล่นตามชุมชน ฟรีบ้าง จ้างบ้าง เล่นที่โรงเรียนบ้าง ค่าจ้างจากหลักพัน ก็กลายเป็นหลักหมื่น อาตมาก็ทำอาชีพนี้เลี้ยงตัวมาเรื่อยๆ จนเรียนจบ ม.6 ตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพราะอยากดูแลโยมแม่จนท่านเสียชีวิตก็มาบวช” อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของหนังตะลุงจะอยู่ที่คนพากย์ นอกจากจะต้องมีเสียงที่น่าสนใจแล้ว จะต้องมีความรู้รอบตัว ข่าวสารบ้านเมืองเพื่อนำไปพากย์ โดยใส่มุกตลกลงไป คนที่ดูนอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้วยังได้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้กลับไปด้วย ซึ่งมุกที่อาตมาสอดแทรกไปนั้น ก็จะปรับเปลี่ยนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ผู้ชมเบื่อ ที่สำคัญต้องทันยุคทันสมัยอีกด้วย
โดยอดีตพระกาโตะ ก็ได้นำคำสอนของพระพุทธเจ้าไปปรับใช้ผ่านการพากย์หนังตะลุง การอัดคลิปลงโซเชียล หรือการเขียนเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นคติสอนใจให้แง่คิดคน และวัยรุ่น จนการเป็นที่โด่งดังอยากมาก จนกระทั่งมาเกิดเรื่อง อย่างที่ได้นำเสนอกันไปแล้วก่อนหน้านั้น ล่าสุดทางไทยรัฐทีวี ได้มีการเปิดเผยค่ าตัว หลวง อดีตพระกาโตะ ทั้งตอนเป็นพระ และตอนสึก ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
งานนี้หลายๆคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมายสำหรับอาชีพหลังจากสึกของอดีตพระกาโตะ
