กว่าจะพิชิตใจพ่อได้ ลูกสาวปัญญา นิรันดร์กุล พบรักแท้กับพนักงานของพ่อ

กว่าจะพิชิตใจพ่อได้ ลูกสาวปัญญา นิรันดร์กุล พบรักแท้กับพนักงานของพ่อ

สำหรับ เสี่ยตา หรือ ปัญญา นิรันดร์กุล ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยความที่เป็นพิธีกรที่มีเอกลักษณ์ และรายการเกมโชว์ที่มีมากกว่า 10 รายการ และอาณษจักของอาณาจักรเวิร์คพ้อยท์ของเขา

และเชื่อว่าหลายคนอาจไม่ค่อยได้เห็นโฉมหน้าทายาททั้ง 4 คนของเสี่ยตา เพราะแต่ละคนไม่ค่อยได้ออกสื่อกันสักเท่าไหร่ เสี่ยปัญญา และภรรยา คุณแอ๊ว วาสนา

มีบุตรเเละธิดารวม 4 คน คือ น้ำตาล ปานวาด, น้ำหอม ปานตา, น้ำทอง ปานฝัน และ น้ำมนต์ ปรวัธน์

และเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว น้ำทอง ปานฝัน นิรันดร์กุล ลูกสาวสุดรักสุดหวง ทายาทคนที่ 3 ของบิ๊กบอสของเวิร์คพอยท์ ก็ได้เข้าพิธีวิวาห์ตามประเพณีไทยกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจ โอดิน

สำหรับเรื่องราวความรักของ น้ำทอง และ โอดิน นั้นน้อยคนจะรู้ว่าเกิดขึ้นที่บริษัทของพ่อ ก่อนหน้านี้ น้ำทอง

ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ณ วันที่น้ำทองสำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันหนึ่งเธอต้องก้าวมาสืบทอดธุรกิจผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ของบิดา เธอจึงขอเลือกมาเป็นพนักงานของเวิร์คพอยท์ฯทันทีที่เรียนจบ

โดยไม่ล่วงรู้เลยว่านี่จะเป็นทางเดินที่ทำให้เธอได้เจอกับรักแท้อย่างไม่คาดฝัน

“น้ำทองกับโอดินเจอกันที่เวิร์คพอยท์ฯ นี่ล่ะค่ะ คุณพ่อให้เรียนรู้งานทุกอย่าง ไปออกกอง ดูงบประมาณรายการเกมเผาขน

ซึ่งโอดินก็เข้ามาทำงานที่เวิร์คพอยท์ด้วยเหมือนกัน เราอยู่คนละฝ่าย แต่ทำรายการเดียวกันเลยได้เจอกันบ่อยค่ะ” น้ำทอง เล่าย้อนความหลัง

หลังเลิกงานก็ยังคุยโทรศัพท์กันต่ออีก ด้วยความคิด วิถีชีวิต รสนิยมความชอบ และไลฟ์สไตล์การเที่ยวต่างก็คล้องจองกันไปหมด

เมื่อความสัมพันธ์ที่ต่างก็เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ทั้งสองเลยกลายเป็นคนพิเศษของกันและกันอย่างไม่รู้ตัว

“โอดินดูแลน้ำทองดีมาก มีหลายอย่างที่เขาทำให้น้ำทองอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยขาดตั้งแต่วันแรกที่คบกัน

ทุกวันบนโต๊ะทำงานของน้ำทองจะมีขวดน้ำแปะโพสต์อิตข้อความต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน

ซึ่งน้ำทองเก็บไว้ทุกแผ่นเขาไปรับไปส่งที่บ้านทุกวัน โชคดีที่บ้านเราอยู่ใกล้กัน ไม่อย่างนั้นเขาต้องขับรถไกลแน่เลย และเขาไม่เคยพูดถึงใครในแง่ไม่ดี

และใจเย็นมาก ปกติน้ำทองเป็นคนใจเย็นอยู่แล้ว แต่โอดินใจเย็นกว่าอีก ทุกคนที่รู้จักเขาจะพูดถึงเขาแบบนี้หมด”

ทั้งสองอาจใช้เวลาคบหากันได้ไม่นานแต่ความเชื่อมั่นในรักกลับเปี่ยมล้น ถึงขั้นวางแผนแต่งงานกันภายใน 3 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ยากยิ่งว่า

“เราจะช่วยกันเก็บเงินเพื่อจัดงานแต่งงานด้วยตัวเอง”

ช่วยกันเก็บเงินไว้แต่งงานว่าเครียดมากแล้ว แต่ยังไม่เท่าทำให้ว่าที่พ่อตาเปิดใจยอมรับในตัวว่าที่ลูกเขย ปฏิบัติการพิชิตใจคุณปัญญาจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

ซึ่งต่างมีประสบการณ์ฝ่าด่านคุณพ่อผู้ขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวที่สุดเช่นคุณปัญญามาแล้ว

“น้ำทองเป็นลูกสาวคนเล็ก คุณพ่อหวงที่สุด ส่วนคุณแม่รับรู้ว่าเราสองคนคบกันและช่วยกันเก็บเงินแต่งงานอยู่ ท่านพยายามเกริ่นเรื่องเราให้คุณพ่อรับทราบ

คุณพ่อรับทราบทุกอย่างแต่ตั้งใจที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นค่ะ (หัวเราะ) สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณพ่อยอมคลายลูกสาวจากอ้อมอกได้คือ โอดินต้องพิสูจน์ตัวเองให้คุณพ่อเห็นว่าจะดูแลน้ำทองได้จริง”

และแล้วสองหนุ่มต่างวัยจึงได้มาพบหน้ากันครั้งแรก เมื่อครอบครัวคุณโอดินมาพบคุณปัญญาที่บ้านพร้อมด้วยผู้ช่วยคนสำคัญคือ

ผู้ใหญ่ฝ่ายชายที่จะเป็นคนทาบทามสู่ขอแก้วตาดวงใจของคุณปัญญาซึ่งก็คือ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

“ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่สนิทสนมกับครอบครัวผมมาก ท่านแนะนำว่าเราต้องไปแบบไม่ธรรมดา ต้องมีพานส้มใหญ่ 2 พานและขบวนรถอีก 3 คันมาสู่ขอด้วย”

คุณโอดินเล่าย้อนบรรยากาศวันนั้นให้ฟัง ทว่าเมื่อไปถึงบ้านนิรันดร์กุลย่านรังสิตแล้ว คุณปัญญาใจแข็งไม่ยอมลงมาพบ

ฟาก อ.เฉลิมชัยก็ไม่ยอมก้าวเข้าประตูเช่นกัน ถ้าเจ้าของบ้านไม่ออกมาต้อนรับ “เป็นวันที่เครียดที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เสียน้ำตาไปไม่รู้กี่รอบ”

สองสิงห์ดูเชิงกันอยู่อย่างนั้น จนคุณแอ๊วกระซิบบอกสามีว่าคุณกนกวัลย์ ภรรยาของ อ.เฉลิมชัยมาด้วย เท่ๅนั้นเองคุณปัญญาถึงยอมลงมานั่งเจรจาด้วยอย่างยินดี

เพราะเป็นที่รู้กันว่าคุณกนกวัลย์ไม่ใคร่ได้เปิดเผยตัวมากนัก และเป็นที่เกรงใจของ อ.เฉลิมชัยที่สุด เมื่อเธอสู้อุตส่าห์เดินทางไกลจากเชียงราย

มาถึงบ้านนิรันดร์กุลด้วยตนเอง คุณปัญญาจึงถือว่าเป็นการให้เกียรติอย่างสูง

“ผู้ใหญ่สองฝ่ายเจรจากันเอง โดยที่เราสองคนนั่งลุ้นอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่คุณแม่น้ำทองแอบมาเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้คุยเรื่องสู่ขอเลย คุยแต่เรื่องสัพเพเหระทั่วไป”

แต่อย่างน้อยการพบกันของผู้ใหญ่ครั้งนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณไฟเขียวจากคุณพ่อปัญญาแบบเจ้าตัวไม่เสียฟอร์ม

จากนั้นเส้นทางรักของทั้งคู่ก็ปลอดโปร่งขึ้นทันตา จนถึงวันงาน ต้นคริสต์มาสสูงใหญ่กลางล็อบบี้โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ ที่ต้อนรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสพอดี

ช่วยให้บรรยากาศโรงแรมเข้ากับธีมงานแต่งงานของทั้งคู่ยิ่งนัก ถึงเวลามงคลขบวนขันหมาก

นำโดย อ.เฉลิมชัย พร้อมคุณโอดินที่สวมสูทสากลกับโจงกระเบนสีกลีบบัว ก็พร้อมผ่านประตูเงินประตูทองของเพื่อนเจ้าสาวทั้ง 10 ประตู

ที่เตรียมภารกิจวัดความรู้ใจและพิสูจน์ความสามารถรอบด้านของคุณโอดินแล้ว แถมพี่สาวทั้งสองของคุณน้ำทองยังให้ว่าที่น้องเขยนิยามความหมายของภรรยา

“ผมตอบยังไงก็ไม่ถูกใจสักที จนตอบว่าภรรยาคือคนที่ต้องบูชา พี่ ๆ ทั้งสองและเพื่อนสนิทของน้ำทองจึงยอมให้ผ่านได้”

แน่นอนว่าคำตอบนี้เรียกเสียงหัวเราะดังสนั่นลั่นโรงแรมกันเลยทีเดียว

ในพิธีหมั้นวันนั้นหัวใจสองดวงชุ่มฉ่ำด้วยคำอวยพรของผู้หลักผู้ใหญ่ที่มอบเป็นมงคลชีวิต พรหนึ่งที่ตรึงใจให้ทั้งสองกลับมาคิดตาม

คือคำอวยพรสั้น ๆ จากญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ว่า ให้รักกันเท่าวันนี้ก็พอ

“เราสองคนคิดตามแล้วก็จริง ท่านสอนทางอ้อมให้เราอยู่กับปัจจุบัน” จบการตีความที่คุณน้ำทองบอกให้เราฟัง รวมทั้งพรประเสริฐที่ว่า

“ถ้าภรรยาโกรธ ไม่ต้องทำอะไรมาก ให้ไปอมน้ำมนต์ หมายถึงสอนให้เงียบ ๆ เข้าไว้ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง”