เรียกได้ว่าเป็นดารา-นักแสดง และนางแบบมากความสามารถที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับ “แม่อี๊ด-ดวงใจ หทัยกาญจน์” ดารา-นักแสดงฝีมือระดับครูอาจารย์ ที่โลดแล่นอยู่บนเส้นทางสายบันเทิงมายาวนาน และมีผลงานสร้างชื่อเสียงมากมายหลายต่อหลายเรื่อง
เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงฝีมือการแสดงของ “ดวงใจ หทัยกาญจน์” หลายๆคนยอมรับเลยว่า เป็นดารา-นักแสดงฝีมือคุณภาพ แถวหน้าของวงการเลยทีเดียว
เกิดเป็นผู้หญิงใช่ว่าจะโชคดีมีลูกง่ายกันทุกคน เพราะบางคนพย าย ามให้มีลูกหลายวิธี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวัง ซึ่งโลกนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายกว่าที่คิด ยังมีเทคโนโลยีสุดล้ำหรือเรื่องดี ๆ คอยช่วยอยู่ อย่างเรื่อง “การอุ้มบุญ” ที่เป็นตัวช่วยสำหรับคุณแม่ที่มีลูกยาก ที่จะหาคนที่รักและวางใจมาอุ้มท้องให้ตลอด 9 เดือน
และ เชื่อว่าคงจะไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับนักแสดงมากฝีมือ “แม่อี๊ด ดวงใจ” ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีกี่ปีก็ยังคงเห็นหน้าตาผ่านจอทีวีอยู่เสมอ และ เป็นที่ฮือฮาหลังจากที่แม่อี๊ดเป็นอีกหนึ่งคนที่ยอมมาเปิดใจถึงเรื่องที่ตนยอมเสียสละเป็น “แม่อุ้มบุญ” ให้กับคู่สะใภ้ “คุณอุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย”
โดยเรื่องราวดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 กว่าปีแล้ว คุณอุ๊เป็นคนหนึ่งในที่ใช้วิธีอุ้มบุญเพื่อให้มี “พะเพื่อน ชุติมณฑน์” ถึงแม้คุณอุ๊จะไม่ได้คลอดลูกด้วยตัวเอง แต่คุณอุ๊ก็รักลูกพะเพื่อนมาก ซึ่งแม่อี๊ดได้เล่าผ่านรายการสมาคมเมียจ๋าว่า ช่วงที่คลอด คุณอุ๊เห็นน้องพะเพื่อนถึงกับร้องไห้น้ำตาร่วงด้วยความยินดีเลย
โดยแม่อี๊ดเล่าว่า ตอนตั้งท้องน้องพะเพื่อนนั้น ตนระมัดระวังเสียยิ่งกว่าท้องลูกตัวเองเสียด้วยซ้ำ ถึงขั้นเวลาไปทำฟัน ยอมทนเจ็บ บอกคุณหมอไม่ต้องฉีดย าชาให้ เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพน้องพะเพื่อนในอนาคต อยากให้น้องพะเพื่อนเกิดมาสมบูรณ์ที่สุด
และเมื่อ แม่อี๊ด ถูกถามว่า ทำใจได้ไหม เมื่อวันหนึ่งต้องเอาลูกที่อุ้มท้องมา 9 เดือนให้คนอื่น โดยแม่อี๊ดบอกว่า แม่อี๊ด ทำใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะของสิ่งนี้ไม่ใช่ของเรา เขาเพียงแค่มาฝากแม่ฟูมฟัก แม่อี๊ด ทำใจได้ แต่สามีของ แม่อี๊ด ทำใจไม่ได้ วันที่ไปเซ็นสัญญ ามอบลูก สามีของแม่อี๊ดถึงกับเป็นลมเลยทีเดียว
และทุกวันนี้ทั้ง แม่อี๊ด และ น้องพะเพื่อน ก็สนิทสนมกันมาก โทรหากันตลอด โดยน้องพะเพื่อนเรียก แม่อี๊ด ว่า “ป้าอี๊ด” แต่ในทีแรกคุณอุ๊ถามแม่อี๊ดว่า ถ้าอยากให้น้องพะเพื่อนเรียกแม่อี๊ดว่า “แม่” ก็ยอมนะ แต่แม่อี๊ดยืนยันว่าไม่ต้องเรียกว่าแม่ เพราะไม่ต้องการที่จะเรียกร้องสิทธิใด ๆ กลัวน้องพะเพื่อนจะสับสน
และครั้งหนึ่ง น้องพะเพื่อน เคยเขียนเรียงความถึง แม่อี๊ด ว่า “ไม่มีเธอก็ไม่มีฉัน ฉันจะระลึกเสมอว่า ถ้าไม่มีป้าอี๊ดคนนี้ ฉันก็คงไม่เป็น พะเพื่อนมาจนถึงทุกวันนี้”
สำหรับประวัติของ น้องพะเพื่อน นั้นบอกเลยว่าไม่ ธรรมดา เรียกว่า คุณภาพคับแก้วอย่างที่ แม่อี๊ด และ แม่อุ๊ ต้องการจริง ๆ เพราะ น้องพะเพื่อน นั้นจบปริญญ าโท Master of Arts in Television ที่ University of Arts London (UAL) ค่ะ ก่อนหน้านี้จบปริญญ าตรีที่ไทย จากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทย าลัยธ รรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ (BJM)
นอกจากนั้น น้องพะเพื่อน กับ คุณแม่อุ๊ คือสองสาวสายแฟชั่นนิสต้า เพราะไม่ว่าจะไปไหนมาไหนแต่ละชุดของเธอนั้นทั้งชิคทั้งคูลเหมือนกับหลุดออกมาจากแมกกาซีน
อบอุ่น