ยอดเงิน ที่หนิงโอนช่วย พ่อค้าตัวน้อย คนดูแค่ 5-6 คนก็สู้

ยอดเงิน ที่หนิงโอนช่วย พ่อค้าตัวน้อย คนดูแค่ 5-6 คนก็สู้

เป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมากและสร้างรอยยิ้มให้คนในโลกออนไลน์ สำหรับเรื่องราวความดีและความน่ารักของ น้องนำโชค พ่อค้าตัวน้อย ที่ไลฟ์สดขายของกับคุณยาย แต่แทบจะไม่ค่อยมีคนเข้าไปอุดหนุนมากนัก ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงบนโลกออนไลน์

โดยน้องนำโชค อาศัยอยู่กับคุณยายที่จังหวัดยโสธร และมักจะมานั่งรีวิวช่วยยายขายของ มีคนดู 5-6 คน หรือบางทีก็ไม่มีคนดูเลย เขาก็ยังพยายามขายพยายามสู้ชีวิต ทำให้หลายๆ คนที่มีโอกาสเข้ามาด้วยช่วยกันเผยแพร่เรื่องของพ่อค้าตัวน้อยให้เป็นที่รู้จัก

จนกระทั่งนักแสดงสาว หนิง ปณิตา ได้เห็นข่าวของน้องนำโชค และกดเข้าไปดูเฟซบุ๊กของน้อง และเห็นว่าน้องกำลังไลฟ์ขายของอยู่พอดี หนิง ปณิตา เล่าว่า ขณะนั้นตนอยู่กับลูกสาว น้องณิริน และสามี คุณจิน ด้วย คุณจินก็บอกตนว่าทำไมไม่ช่วยเขาไลฟ์ เพราะว่าดูน้องอยากขายของจริงๆ

หนิง เล่าอีกว่า น้องจะบอกแต่ว่ามีสินค้าอะไร ราคาเท่าไร แต่น้องไม่ได้บอกว่าต้องสั่งซื้อที่ไหน เบอร์โทรอะไร ซึ่งปกติเวลาคนไลฟ์ขายของก็จะต้องบอกว่าซื้ออย่างไร น้องมีความพยายามอยากขาย แต่ยังไม่ได้มีกลยุทธ์ ดังนั้นคุณจินก็เลยบอกให้ตนเข้าไปไลฟ์กับน้อง

จากนั้น ตนจึงคอมเมนต์เข้าไปบอกว่า เดี๋ยวจะช่วยไลฟ์ขาย พร้อมทั้งแชร์ไปที่เพจของตัวเอง และบอกให้คนช่วยกันแชร์ และอุดหนุนน้อง ทำให้เมื่อวานนี้ยอดคนดูน้องขึ้นเป็นหลักพันเลย สำหรับตัวเองไม่ได้อุดหนุนอะไรน้อง แต่โอนเงินให้เขา เพื่อเป็นทุนการศึกษา และเพื่อทำทุนก่อน ซึ่งคาดว่าต้องโอนยอดไม่ต่ำกว่า 10,000 แน่นอน ปกติแล้วเวลาที่ตนจะทำบุญ ตนต้องเห็นว่าเขาลำบากจริงๆ ก่อน

จริงๆ แล้วตนก็เป็นคนทำบุญเยอะ เห็นตามรายการก็จะสงสารแล้วติดต่อไปเลย ตนอยากช่วยคนที่ลำบากจริงๆ และน้องเขาพยายามกัดฟันที่จะทำ ที่จะไลฟ์ ถึงไม่มีคนดูแต่ก็ยังขาย เขาไม่ยอมแพ้ตัวเอง ตนก็เลยอยากช่วย เพราะรู้สึกว่าอินเนอร์ข้างในน้องดี

นอกจากนี้ ยังมีการพูดเรื่องการส่งน้องเรียนด้วย เพราะน้องพูดว่าหาเงินเพื่ออยากไปเรียนต่อ ม.1-ม.6 ตนก็เลยบอกเขาว่าให้อยู่ดูแลคุณยายไป กตัญญูกับคุณยาย เดี่ยวเรื่องค่าเรียน ม.1-ม.6 ตนจะช่วยส่วนหนึ่ง

และหลังจากได้ไลฟ์กับน้องนำโชคไปแล้ว น้องก็ได้มีการส่งข้อความมาขอบคุณด้วยว่าเมื่อวานขายได้เยอะ กลัวทำไม่ทัน แต่ก็จะพยายามทำ ซึ่งตนก็ดีใจ จริงๆ แล้วหลังจากนี้ตั้งใจว่าจะติดต่อน้องไปอีกครั้ง ดูเรื่องความเป็นอยู่ของน้องว่าตรงไหนที่พอซัพพอร์ตน้องได้บ้าง ถ้ามีโอกาสอยากเจอ แต่ด้วยสถานการณ์ ก็อาจจะได้แค่คุยผ่านทางแชทไปก่อน หนิง ปณิตา กล่าว

เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมและเป็นกำลังใจให้เด็กอีกหลายคนที่ต้องทำงานและเรียนไปด้วย เชื่อว่าด้วยความขยันของน้องๆจะทำให้น้องๆประสบความสำเร็จและเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคตนะคะ

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วน ทุบโต๊ะข่าว