เรียกว่าเป็นวันที่สำคัญของคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่แฟน ๆ หลายคนต่างจับตามอง สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่มมาดหล่อ “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ที่ได้ควงแขนแฟนสาวนอกวงการ “วิกกี้-พีมนต์ญา เวธน์ปริวัฒน์” เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างชื่นมื่น
โดย หนุ่มเวียร์ ได้สวมใส่ชุดสูทสีเทาสุดเนี้ยบเข้ากับชุดของ สาววิกกี้ ที่เลือกเป็นชุดไทยสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขจนล้นออกมา ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นของคู่บ่าวสาวป้ายแดง รวมไปถึงคนในครอบครัว ญาติ และเพื่อน ๆ ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี อีกทั้งยังมาเป็นสักขีพยานรักในครั้งนี้กันอย่างคับคั่ง
ส่วนพื้นที่ในงานนั้นถูกเนรมิตให้คล้ายกับสวนหลังบ้านตามที่ เวียร์-วิกกี้ ต้องการ เพราะอยากให้คนที่มาร่วมงานรู้สึกประทับใจ อบอุ่น และสบายใจ เหมือนได้มาพักผ่อน
โดยงานนี้ เวียร์และวิกกี้ ก็ได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรักให้ได้ฟังกัน
เวียร์กับวิกกี้ ได้เจอกันที่ใต้น้ำเมื่อ 4-5 ปีก่อน เพราะ วิกกี้ มาช่วยเป็นสตันต์ เพราะเขาเป็นนักดำน้ำ ในละครเรื่อง สัมปทานหัวใจ ซึ่งตอนนั้น เวียร์ ยังไม่อินเรื่องดำน้ำ แค่ไปขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริป ละครก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว หลังจากนั้นก็แยกย้ายไม่ได้เจอกันเลย
ย้อนกลับไปจนวันที่ได้มาเจอกันอีก เวียร์ กลับมาจากถ่ายหนังที่ต่างประเทศ นึกถึง วิกกี้ เพราะถ่ายดำน้ำมา ก็ชวนเพื่อน ๆ ที่เรียนดำน้ำด้วยกัน ก็เลยโทรหาเผื่อเขาจะพาเราดำน้ำได้ ก็เลยได้ติดต่อเขาไปอีกครั้งหนึ่ง
ถามว่าเชิงจีบมั้ย คือ ณ ตอนนั้นโสดแล้วไง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรนะ มันเริ่มต้นจากอายุเราใกล้เคียงกัน เป็นเพื่อนกันมา และเราก็ผ่านอะไรมาเยอะ เวลาพูดคุยกันมันก็พูดกันตรง ๆ แต่เราห่างการจีบผู้หญิงมานาน บางทีก็ไม่รู้แม้อายุจะขนาดนี้ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยคุยเรื่องที่เราชอบเหมือนกัน
ก่อนที่ วิกกี้ จะเล่าให้ฟังว่า เวียร์ เริ่มจีบด้วยการชวนไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ชวนบ่อยมาก เวียร์ จะมีกิจกรรมตลอด ชวนไปเดินป่ามั้ย ชวนตลอด แต่ วิกกี้ ไม่ได้ไปเพราะไม่ว่าง มีทั้งไม่ว่างทิพย์และไม่ว่างจริง ๆ ด้วย
ซึ่ง เวียร์ เล่าต่อว่า ตอนแรก วิกกี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เวียร์ เป็นใคร เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์ ซึ่ง วิกกี้ เล่าต่อว่า ครั้งแรกที่เห็นก็แบบ ผู้ชายคนนี้สูงดีนะ และครั้งแรกที่พ่อแม่เจอ พี่เวียร์ แม่ก็มาสะกิดแล้วถามว่า ใช่พี่เคอรี่รึเปล่า พอมารู้ว่าเขาเป็นใคร ก็รู้สึกว่าไม่ดีกว่า ด้วยความต่างของอาชีพ เขาเป็นนักแสดง ส่วนเราเป็นนักธุรกิจ ทำให้เรามีกำแพงขึ้นมา
ก่อนที่ หนุ่มเวียร์ จะเล่าว่า การที่เราเป็นนักแสดงและมีชื่อเสียงเขาก็คงกลัว แต่สิ่งที่เราทำได้ เราต้องทำให้เขาไว้ใจ ว่าเราอยากคุย อยากรู้จักด้วยจริง ๆ ซึ่ง วิกกี้ ก็บอกว่า เขาก็ชวนหลายรอบมาก เขาไม่ละความพยายาม ก็เลยยอมไปก็ได้ ไปเพราะอยากรู้จักเขามากขึ้น เพราะเขาชวนไปในที่ที่เราอยากไป จนเขาเอาดำน้ำมาล่อ ซึ่งการดำน้ำเป็นสิ่งที่เราสนใจมาก
หลังจากที่เป็นเพื่อนกันมาเรื่อย ๆ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เราก็คิดอะไรเหมือนกันหลาย ๆ อย่าง พอได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เรารู้สึกว่าเราสามารถพึ่งพาเขาได้ และเราก็อยู่ง่ายกินง่ายเหมือนกัน ไปไหนง่าย ๆ ก็เลยไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
เวียร์ เล่าต่อว่า มันค่อยซึมในสิ่งที่เราชอบเหมือนกัน ก็ปรับกันไปปรับกันมา พอคนมันเริ่มรู้สึกดีกันแล้ว ความต่างของกันก็เลยทำให้เริ่มรับได้ ค่อย ๆ ปรับกันมาเรื่อย ๆ จากเพื่อนมาเป็นแฟนกัน ก่อนที่วิกกี้จะบอกว่า คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเรา ก็ต้องการคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ซึ่ง เวียร์ ก็เล่าต่อว่า เพราะอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิตเติบโตมาด้วยตัวเอง จากเด็กต่างจังหวัดมาต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่หลัก ๆ ก็คือคนเดียว เวลาเกิดอะไรขึ้นก็จะเอาตัวเองให้รอดก่อน ก็มีความเห็นแก่ตัว แต่ วิกกี้ เขามาเปลี่ยน เขาพูดตรง ๆ เลย ตอนแรกผมรู้สึกโกรธนะ เพราะผมก็เป็นคนแบบนี้ก็อยู่มาแบบนี้ เราก็อยู่ได้ มีอีโก้
พอลองเปลี่ยนลองมองให้มันกว้างขึ้น ใส่ใจมากขึ้น โดยเริ่มต้นที่เขา เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้น เลยรู้สึกว่าถ้าอยู่กับคนที่เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้นเขาต้องเป็นภรรยาที่ดี เป็นเพื่อนที่ดีได้ เพราะเขากล้าที่จะพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเรา สุดท้ายไม่ว่าจะอะไรก็ตาม จะทะเลาะก็คุยกันให้จบ อย่าให้ข้ามคืน พรุ่งนี้ก็รันใหม่ เพราะต้องมีชีวิตกันไปอีกยาวนาน
สำหรับวันที่ขอแต่งงาน วิกกี้ เล่าให้ฟังว่า วันนั้นง่วงนอนมาก ตอนช่วงเช้าเขาบอกจะจัดงานปาร์ตี้กัน ก็อาสาช่วยแต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ก็รู้สึกตงิดแล้ว และเขายังบอกว่าทุกคนใส่ชุดสีขาว ตอนนั้นรู้สึกว่าเขาจะขอแต่งงานรึเปล่า เพราะเขาเป็นคนเก็บความลับไม่เก่ง และไม่คิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ เพราะเขาไม่ใช่คนเซอร์ไพรส์ เราก็เลยเตรียมชุดขาวเอาไว้สวย ๆ รอจนถึง 4 ทุ่มครึ่งก็เริ่มง่วงเมื่อไหร่จะขอแต่งงาน
ก่อนที่ วิกกี้ จะพูดความรู้สึกจากใจให้ เวียร์ ได้รู้ว่า ขอบคุณที่รักมาก ๆ ที่อยู่ด้วยกัน ขอให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ อยากให้ที่รักแข็งแรง ๆ จะได้เป็นครอบครัวที่สุขภาพแข็งแรง ร่าเริง แฮปปี้ จะได้ไปเที่ยวกันเยอะ ๆ ด้วย และหนูก็จะดูแลที่รักให้ดีที่สุดอย่างที่เคยสัญญาไว้ค่ะ
ส่วน เวียร์ ก็พูดความรู้สึกของตัวเองให้ภรรยาสาวฟังว่า วิกกี้ เป็นคนที่มาทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น อาจจะไม่ได้รู้จักกันมาเป็นสิบปี แต่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าวิกกี้รักผมมากแค่ไหน วิกกี้ ดูแลผม ดูแลทุกคน วิกกี้ เป็นคนเสียสละ รักครอบครัว เป็นคนจริงใจ เป็นคนเด็ดขาด แต่เป็นคนน่ารัก ใจเย็น แต่ตื่นสาย
อยากบอก วิกกี้ ว่า รัก วิกกี้ นะ จะดูแล วิกกี้ ให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราต้องเข้มแข็ง จับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะยากเกินไปกว่าเราสองคนจะจัดการได้ เราไม่มีทางแพ้ถ้าเรารักกัน
วันนี้เราตั้งใจที่จะเป็นครอบครัว ปะป๊าอยากจะฝากให้ วิกกี้ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ป๊าอยากให้วิกกี้หายจากภูมิแพ้เร็ว ๆ ป๊าจะดูแลวิกกี้เอง วิกกี้ก็ดูแลปะป๊าด้วยนะครับ ป๊ารัก วิกกี้ นะ
ขอแสดงความยินดีกับคู่ของ หนุ่มเวียร์ และ สาววิกกี้ ด้วยนะคะ