“อิน บูโดกัน” ย้อนสิ่งที่ทำกับแฟนคลับจนเสียใจมาถึงวันนี้

“อิน บูโดกัน” ย้อนสิ่งที่ทำกับแฟนคลับจนเสียใจมาถึงวันนี้

เชื่อว่าแฟนเพลงหลายคนในยุค 90 คงไม่มีใครไม่รู้จักวงดนตรีหญิงล้วนอย่าง วงบูโดกัน ที่นักร้องนำมีเสียงเป็นเอกลักษณ์สำหรับ “อิน บูโดกัน” ซึ่งในยุคนั้นก็มีหลายเพลงที่วงได้ปล่อยออกมาแล้วดังมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ไชยา , ขอให้เหมือนเดิม และอีกมากมาย จนถึงปัจจุบันเพลงของ วงบูโดกัน เปิดเมื่อไหร่แฟนเพลงหลายคนก็ยังคงร้องตามได้อยู่เสมอ

ล่าสุด อิน บูโดกัน ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ปากต่อปาก ถึงเรื่องราวที่ครั้งหนึ่งเคยทำบางอย่างกับแฟนคลับ ซึ่งปัจจุบันยังรู้สึกเสียใจกับเรื่องนั้นอยู่ ถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ จะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

จุดเริ่มต้นก่อนที่จะมาเป็นวงบูโดกัน ?
อิน บูโดกัน : เดิมไปเล่นดนตรีตามร้านอาหาร แล้วมีเจ้าของค่ายเพลงและโปรดิวเซอร์เค้ามาเห็นก็ชวนไปทำเพลง เพราะตอนนั้นเป็นวงดนตรีที่มีผู้หญิงล้วน และหลังจากนั้นประมาณ 11 เดือน ถึงได้ทำอัลบั้ม บูโดกัน และมีเพลงที่ดังมาก ๆ คือเพลง ไชยา ดังสุด และช่วงนั้นคืองานเยอะมาก ๆ ในยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก

ดังแล้วเคยหลงตัวเองมั้ย ?
อิน บูโดกัน : เคยนะ คือ เหตุการณ์ตอนนั้นเกิดขึ้นที่ห้าง ๆ หนึ่ง อย่างสมัยก่อนพอมันทัวร์คอนเสิร์ตเยอะ 3-4 เดือน ไม่เจอหน้าพ่อแม่เลยด้วยความที่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด จังหวะที่เรากำลังนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยบวกกับความที่เราคิดถึงพ่อแม่ มีแฟนคลับวิ่งเข้ามาขอลายเซ็นต์ เราก็ไปวีนใส่เค้าไปว่า “เดี๋ยวก่อนได้มั๊ยขอกินข้าวก่อน” แต่คนที่ได้ยินและที่เห็นเราเป็นเเบบนั้นคือ เค้าเกลียดเราไปเลย ขนาดพ่อเรายังเกลียดในสิ่งที่เราทำเลย ก็ว่าเราว่าทำไมไม่พูดคุยกับเค้าก่อน และเซ็นต์ให้เค้าแล้วค่อยกินข้าวต่อ พ่อด่ากลางห้าง นั่งร้องไห้กลางห้าง

ความรู้สึกเราตอนนั้น คือ อยากให้เค้ารอก่อน คือเราไม่ได้กินข้าวกับพ่อเเม่เรามา 4 เดือนแล้วในความคิดเรา คือพ่อแม่เราคือที่ 1 แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ พี่จะพูดคุยกับเค้า เซ็นต์ให้เค้าแล้วค่อยกินข้าวต่อ ทุกวันนี้นะพอเราเห็นใครอยากจะถ่ายรูปเราเดินไปถ่ายให้เค้าก่อนเลย เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงรู้สึกผิดมากจริง ๆ

เรียกได้ว่าก็ถือเป็นประสบการณ์ในช่วงที่เป็นศิลปินหน้าใหม่แล้วดังมาก ๆ ซึ่งก็ถือเป็นบทเรียนให้กับเจ้าตัวในการปรับปรุงตัวและรับมือกับแฟนคลับได้ดีขึ้น อย่างไรเชื่อว่าแฟนเพลงก็รอติดตามผลงานของ วงบูโดกัน กันอยู่นะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการ ปากต่อปาก