“ดู๋ สัญญา” ปิดตำนานพิธีกรช่อง 7 ระยะเวลา 19 ปี

“ดู๋ สัญญา” ปิดตำนานพิธีกรช่อง 7 ระยะเวลา 19 ปี

เรียกได้ว่าเป็นพิธีกรมากความสามารถที่อยู่หน้าจอทีวีและอยู่ในใจคนดูมาอย่างยาวนาน สำหรับพิธีกรชื่อดัง “ดู๋ สัญญา” ซึ่งรายการที่หลาย ๆ คนชอบดูอย่างรายการ เจาะใจ หลังจากปิดตำนานพิธีกรรายการช่อง 7 โดยมีหลายกระแสเกิดขึ้นในตอนนั้นว่า ถูกปลด หรือ ออกเองกันแน่

วันที่ต้องลุกออกจากเก้าอี้ มีข่าวว่า ถูกปลด กับ เลิกเอง ?
ดู๋ สัญญา : ผมเลิกเอง ธุรกิจมันไม่เอื้อ เราเป็นรายการหนึ่งที่อยู่ในพันรายการ เราไม่ได้เลิกเพื่อว่าเราจะไปอยู่ดาวดวงอื่น เรายังคงอยู่ในธุรกิจนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องฟูมฟาย เพราะโลกมันเปลี่ยน คุณต้องไปหาหนทางอื่นต่อไป ตอนผมเลิก ผมไม่เศร้า ผมไม่ทุกข์ สิ่งเดียวที่เสียใจ คือห่วงลูกน้องมากกว่า

สำหรับความรักหรือความเข้าใจของคนอายุ 58 ปี มีวิธีประครองรักอย่างไร ?
ดู๋ สัญญา : พระพุทธเจ้าสอนว่า คนทุกคนเกิดมาต้องตาย จะไปกอบโกยอะไรให้มากมายให้เกิดทุกข์ ถ้าเปรียบกับความรัก คุณรักใครก็รู้ว่าจะอยู่แค่เวลาจำกัด เวลาที่มีอยู่ไม่ใช่เอาไปทะเลาะกัน ละเลยกัน ตอนนั้นผมมีครอบครัวตอน 30 กว่า ๆ ผมให้ครอบครัวอันดับ 2 งานอันดับ 1 แต่ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว ผมเลยคิดว่า อยากจะทำทุกวินาทีกับคนรักให้มีคุณค่า

ชื่อเสียงเงินทองสำคัญมั้ย ในวัย 56 ?
ดู๋ สัญญา : ชื่อเสียงเป็นประโยชน์ แต่คุณก็ต้องทำตัวให้ดี อย่าทำตัวไม่ดี เพื่อรักษาชื่อเสียง ถ้าคุณมีพอที่จะใช้ชีวิตแล้ว คือพอใช้แล้ว คือรวยแล้ว แต่ถ้าคุณตะกายจะเอาอีก นั้นคือคุณยังไม่รวยพอ ชีวิตผมก็โอเคแล้ว

นอกจากนี้ ดู๋ สัญญา ยังเปิดเผยถึงบาดแผลฝังใจที่รู้สึกถึงความผิดพลาดตลอดระยะเวลาการทำหน้าที่พิธีกรว่า เรื่องผิดพลาดมันต้องมีอยู่แล้วเพราะคนเรามันไม่ได้ดีตลอด

ถามว่า บาดแผลไหน มันเกิดจากความไม่รู้เรื่อง ซึ่งเกิดจาก ผมไปถามนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน แล้วในรายการผมก็ถามเรื่องการศึกษาของเขา แล้ววันนั้นเราก็ถามไปว่า เฮ้ย! มันเป็นแบบนั้นเหรอ แบบนี้เหรอ ? แล้วน้องก็เสียใจ

เหมือนไปคิดไม่ตรงกับเค้าว่า สิ่งที่คุณเล่าคุณเล่าด้วยเจตนาหนึ่งรึเปล่า อะไรอย่างนี้ผมคงไม่ให้รายละเอียด ซึ่งน้องเค้าเสียใจร้องไห้ มันก็เป็นเรื่องที่ผมก็เสียใจจนทุกวันนี้

ส่วนลูกชายอย่าง น้องเอม นั้น คุณดู๋ สัญญา ได้ส่งไปเรียนถึงเมืองนอก น้องเอม บอกว่า มหาวิทยาลัยอยู่บนเขาในเมืองลอสแอนเจลิส ผมเลือกเรียนที่นี่ ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยอาจไม่ดังเท่าไร การใช้ชีวิตที่นี่ทำให้ผมได้เป็นตัวของตัวเองทำทุกอย่างเอง เช่น เลือกคลาสเรียนเอง จะกินข้าวเวลาไหน กินอะไร จะออกไปแฮ้งเอ๊าต์กับเพื่อนตอนไหน ใช้เงินอย่างไร

คุณพ่อไม่ได้กำหนดเงินให้ใช้แต่ละเดือน เพราะเชื่อใจว่าผมไม่ฟุ่มเฟือย ผมชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไร เคยเดินทางไปซานฟรานซิสโกมีเงินติดตัวไป 500 ดอลลาร์ พอแม่รู้ว่าผมมีเงินแค่นี้ เตรียมจะโอนเงินมาเพิ่มให้ จึงบอกไปว่ายังเหลือเงินอีก 300 ดอลลาร์ และกำลังจะกลับแล้ว ตอนอยู่ไฮสกูลผมยังใช้โทรศัพท์โนเกียเครื่องละ 900 บ. อยู่เลย คุณแม่เพิ่งเปลี่ยนเป็นไอโฟนให้เมื่อวันเกิดที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหลาย ๆ คนยังคงชื่นชอบลีลาการพูดคุยสไตล์ คุณดู๋สัญญา ที่ไม่ว่าจะทำรายการรูปแบบใดออกมาก็ดูสนุกสนานชวนให้ติดตามจนจบรายการเลยทีเดียวนะคะ